ผ้าม่านจีบ เป็นผ้าม่านแบบพื้นฐานที่มาตรฐานนิยมใช้กันมาก จะเย็บเป็นจีบ 3 แฉก ของแต่ละจีบ และสามารถเพิ่มลูกเล่นในการต่อสีของผ้าสไตล์ต่างๆได้ ซึ่งผ้าม่านจีบสามารถใช้เกี่ยวกับรางโชว์ ลักษณะกลม มีห่วง มีหัวปิดรางแบบต่างๆได้ หรือ ผ้าม่านจีบจะใช้เกี่ยวกับรางอะลูมิเนียม

ม่านลอนเป็นม่านที่มีลักษณะคล้ายๆ กับ ม่านจีบ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องเลยก็ว่าได้ แต่ที่แตกต่างกันคือ ม่านลอนจะไม่มีการจับจีบข้างบนผ้าม่านเหมือนม่านจีบเท่านั้นเอง ถือเป็นแบบผ้าม่านสมัยใหม่อีกทางเลือกหนึ่งที่มีสไตล์และความแตกต่างจากแบบผ้าม่านชนิดเดิม การเย็บในแนวตรงตัวผ้าม่านจึงมีความเป็นลอน ซึ่งทำให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผ้าม่านชนิดนี้ การเย็บในลักษณะนี้จึงต้องใช้ผู้ตัดเย็บที่มีความชำนาญ เพราะไม่เช่นนั้นผ้าจะทิ้งตัวบิดเบี้ยวไม่สวยงาม
 

 ม่านตาไก่ เป็นม่านที่ดูคลาสสิค เรียบหรู มีลักษณะเฉพาะที่การเจาะรูที่หัวผ้าม่าน ใส่ห่วงตาไก่ เพื่อสอดรางม่านเข้าไป ทำให้ดูพลิ้วไหว มีความเป็นอิสระ ของม่านแล้วยังสามารถออกแบบเพิ่มเติม ได้อย่างไม่จำกัด ตามความต้องการ ม่านตาไก่ ชั้นเดียว สองชั้น สามชั้นมีผ้าโปร่ง ม่านตาไก่ สไตล์หลุยส์ แต่งเติมด้วย  ชายครุย และชายหลุยส์ ม่านตาไก่รางโชว์ ทูโทน แต่งได้ลงตัวทุกๆห้องตามที่ต้องการ

ผ้าม่านแบบม่านหลุยส์ เหมาะกับสไตล์บ้านที่มีความต้องการให้บ้านดูหรูหรา ดูภูมิฐาน ดูอลังการ ลักษณะของม่านหลุยส์ คือ การทำระย้าผ้าตามรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีหลายลักษณะ ทำเพิ่มขึ้นเพื่อมาวางครอบบนรางม่านตัวใน

ผ้าม่านแบบพับ เป็นผ้าม่านรูปแบบหนึ่งที่ใช้ผ้าในการตัดเย็บ ม่านชนิดนี้ใช้กันมานานแล้วแต่พึ่งนิยมนำมาใช้กันมากขึ้นเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ม่านชนิดนี้เหมาะกับการตกแต่งสไตล์โมเดิร์ล โดยเมื่อดึงโซ่ที่อยู่ด้านข้างเพื่อยกม่านขึ้นม่านพัตัวม่านจะพับและเรียงตัวซ้อนเป็นทบๆไล่ระดับกันขึ้นไป การเรียงตัวเป็นชั้นๆนี้คือลักษณะเด่นของม่านพับ โดยม่านพับที่จะออกมาดูสวยได้นั้นช่องไฟแต่ละช่องควรมีขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน มักนำไปใช้ติดตั้งบริเวณหน้าต่างโดยเฉพาะหน้าต่างที่มีขนาดเล็ก 

มู่ลี่ เป็นผ้าม่านชนิดหนึ่งนอกจากจะช่วยบังแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านแล้ว ยังช่วยสะท้อนความร้อนจากภายนอก และบังสิ่งต่างๆ ทั้งภายใน-ภายนอกบ้าน สามารถปรับทิศองศาการรับแสงได้ตามความต้องการหรือจะใช้เป็นของตกแต่งบ้านก็ได้ โดยทั่วไปมู่ลี่มี 2 แบบ คือ มู่ลี่ไม้ และมู่ลี่อลูมิเนียม

ม่านม้วน คือ ผ้าม่านที่มีความเรียบง่าย รูปแบบทันสมัย ใช้บังแสงจากภายนอก เมื่อม้วนเก็บขึ้นจะมีขนาดเล็ก มิดชิด ไม่เกะกะ ปรับระดับความสูงได้ตามต้องการ ทำความสะอาดง่ายผลิตจากใยสังเคราะห์ จึงไม่ค่อยติดฝุ่น มักจะใช้ตามอาคารสำนักงาน คอนโด บ้านสไตล์โมเดิร์น

ประเภทของม่านม้วน ม่านม้วนมีทั้งหมด 3 แบบ

1. Black out  หรือม่านม้วนแบบทึบแสงจะมี 2 ประเภทหลักๆคือทึบแสงแบบใช้ผ้าทึบแสง หรือทึบแสงแบบใช้ผ้าธรรมดาแล้วมาเคลือบโฟมทึบแสง จะเป็นม่านม้วนที่มีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนได้มากขึ้นกว่าม่านม้วนแบบใช้ผ้าทึบแสง และยังมีการใช้เทคโนโลยีอลูมิเนียมทึบแสง ตรงนี้จะยิ่งช่วยลดความร้อนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่ข้อเสียคือ มีราคาที่ค่อนข้างสูง

2. Sunscreen  คือม่านม้วนที่สามารถมองเห็นด้านนอกโดยที่ด้านนอกมองเข้ามาด้านในไม่เห็นในเวลากลางวันหรืออาจจะเห็นลางๆ แต่ถ้าเป็นเวลากลางคืนด้านที่สว่างกว่าจะถูกมองเห็น ม่านม้วนSunscreen จะเหมาะกับออฟฟิต และบ้านที่มีการตกแต่งภายนอกสวย เนื่องจากม่านม้วน Sunscreen เป็นม่านที่สามารถปิดลงมาแล้วมองออกไปด้านนอกได้ ช่วยลดความร้อนและรังสียูวีที่เข้ามาในห้อง และช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องได้

3. Dim  out หรือแบบไม่ทึบแสง เป็นม่านม้วนที่เวลาปิดลงมาแสงยังสามารถส่องผ่านเข้ามาในห้องได้บ้างแต่ไม่สามารถมองเห็นด้านนอกห้องได้ในขนาดที่ปิดม่านม้วนลงมา ม่านม้วนประเภทนี้เป็นม่านม้วนที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดาม่านม้วนทั้ง 3 แบบ

ม่่านปรับแสงเป็นลักษณะม่านที่ใช้บังแสงในแนวตั้ง มีทั้งวัสดุที่ทำจากผ้ามาเคลือบโค้ดติ้ง  หรือวัสดุที่ทำจากพีวีซี ม่านปรับแสงเป็นม่านชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นิยมติดตั้งที่ออฟฟิตเนื่องจากสามารถปรับใบให้มองเห็นด้านนอกได้ และสามารถเปิดปิดด้านข้างได้ แต่ทั้งนี้ม่านปรับแสงก็มีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องการใช้งานเมื่อใช้ไปนานๆอาจจะมีปัญหาในเรื่องของใบบางใบที่ไม่พลิกและ อาจจะมีปัญหาในเรื่องของการดูแลรักษาทำความสะอาด ม่านปรับแสงมี 3 แบบคือ 
1. Block  out  ม่านปรับแสงแบบ Block out คือม่านปรับแสงที่ผ้าทึบแสงแบบ 100%  แสงไม่สามารถผ่านเข้ามาในห้องในกรณีที่ปิดม่าน 
2. Dim out  ม่านปรับแสงแบบ  Dim out คือม่านปรับแสงที่ แสงสามารถผ่านเข้ามาในห้องได้ แต่ไม่สามารถมองเห็นด้านนอกห้องได้
3. Sunscreen  เป็นม่านปรับแสงที่มองทะลุออกไปด้านนอกได้ โดยที่ด้านนอกมองไม่เห็นด้านใน ในเวลากลางวันและเวลากลางคืนด้านที่สว่างกว่าจะถูกมองเห็น